7 ปีที่รอคอย เลือกตั้งท้องถิ่น ปูทางสู่เลือกตั้งใหญ่ วัดใจกกต.
Last updated: 25 ก.ค. 2567 | 1338 จำนวนผู้เข้าชม |
7 ปีที่รอคอย เลือกตั้งท้องถิ่น ปูทางสู่เลือกตั้งใหญ่ วัดใจกกต.
ผ่านไปแล้ว สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในการเลือกตั้งนายกอบจ.และส.อบจ. ทั่วประเทศ โดยเวลากว่า 7 ปี ที่ประเทศไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่น นับตั้งแต่คสช.รัฐประหารเมื่อ 20 พ.ค. 2557
การเลือกตั้งท้องถิ่น ถือว่าเป็นสนามแรก ปูทางสู่การเลือกตั้งใหญ่ หากจะพูดถึงการเมืองระดับชาติ การเลือกตั้งท้องถิ่นถือว่ามีส่วนสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะคือฐานเสียงของการเมืองระดับชาติ
การเลือกตั้งท้องถิ่น ค่อยข้างละเอียดและมีความซับซ้อนมากกว่าการเลือกตั้งระดับชาติ ในหลายจังหวัด ที่มีนักการเมืองระดับชาติหรือส.ส.พรรคการเมืองหนึ่งเกือบทั้งจังหวัด แต่ในสนามท้องถิ่น กลับมาจากอีกพรรคการเมืองหนึ่งโดยเซียนการเมือง เรียกการเมืองท้องถิ่นว่า การเมืองสมประโยชน์หรือผลประโยชน์ลงตัว
การเลือกตั้งท้องถิ่น มักจะส่งผู้สมัครในตัวแทนของกลุ่มต่างๆมากกว่าตัวแทนของพรรคการเมือง แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา มีเพียงพรรคเพื่อไทย ที่ส่งผู้สมัครในนามของพรรคการเมือง พรรคเพื่อไทย ส่งทั้งหมด 25 จังหวัดจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ และก็มีอีกหลายจังหวัดที่ให้การสนับสนุนแต่ไม่ได้ลงในนามพรรค
หลังจากการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคเพื่อไทย เข้าวินมา 9 จังหวัด ภาคเหนือ 5 จังหวัด ภาคอีสาน 4 จังหวัดและจังหวัดที่พรรคสนับสนุนอีกหลายจังหวัด แต่จังหวัดที่สำคัญที่สุด เรียกได้ว่าแพ้ไม่ได้ คงหนีไม่พ้น เมืองหลวงชินวัตร อย่างจ.เชียงใหม่ ที่เรียกได้ว่า ใช้ทุกองคาพยพ ทุกสรรพกำลัง ในที่สุดก็ล้มแชมป์เก่า เข้าวินมาได้
นอกจากตัวแทนพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองที่ถูกจับตามองมากที่สุด คงพนีไม่พ้น “คณะก้าวหน้า” ภายใต้การนำของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ส่งผู้สมัครถึง 42 จังหวัดทั่วประเทศ มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่างหนัก แม้ไปที่ไหนจะมีกลุ่มค่อยตามไล่ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค
เมื่อผลการเมืองตั้งออกมา เรียกได้ว่า น่าผิดหวังสุดๆ เพราะคณะก้าวหน้า ที่ถูกจับตามอง ประกาศสู้บ้านใหญ่ในหลายจังหวัด ลั่น ต้องชนะแบบแลนด์สไลด์ แต่สุดท้าย เรียกว่า แพ้แบบแลนด์สไลด์ แพ้ทุกจังหวัด ราบเป็นหน้ากอง จนธนาธร ต้องแถลงขอโทษ บรรดาแฟนคลับ ที่แพ้เลือกตั้ง แต่ยืนยันว่า กระแสไม่ได้ตกและคะแนนไม่ได้ตก เพราะหากนำคะแนนมาคิดกับเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา คะแนนไม่ได้ตก หรือหายไปไหน
การเลือกตั้งท้องถิ่น ถือว่าเป็นสนามแรก ปูทางสู่การเลือกตั้งใหญ่ หากจะพูดถึงการเมืองระดับชาติ การเลือกตั้งท้องถิ่นถือว่ามีส่วนสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะคือฐานเสียงของการเมืองระดับชาติ
การเลือกตั้งท้องถิ่น ค่อยข้างละเอียดและมีความซับซ้อนมากกว่าการเลือกตั้งระดับชาติ ในหลายจังหวัด ที่มีนักการเมืองระดับชาติหรือส.ส.พรรคการเมืองหนึ่งเกือบทั้งจังหวัด แต่ในสนามท้องถิ่น กลับมาจากอีกพรรคการเมืองหนึ่งโดยเซียนการเมือง เรียกการเมืองท้องถิ่นว่า การเมืองสมประโยชน์หรือผลประโยชน์ลงตัว
การเลือกตั้งท้องถิ่น มักจะส่งผู้สมัครในตัวแทนของกลุ่มต่างๆมากกว่าตัวแทนของพรรคการเมือง แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา มีเพียงพรรคเพื่อไทย ที่ส่งผู้สมัครในนามของพรรคการเมือง พรรคเพื่อไทย ส่งทั้งหมด 25 จังหวัดจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ และก็มีอีกหลายจังหวัดที่ให้การสนับสนุนแต่ไม่ได้ลงในนามพรรค
หลังจากการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคเพื่อไทย เข้าวินมา 9 จังหวัด ภาคเหนือ 5 จังหวัด ภาคอีสาน 4 จังหวัดและจังหวัดที่พรรคสนับสนุนอีกหลายจังหวัด แต่จังหวัดที่สำคัญที่สุด เรียกได้ว่าแพ้ไม่ได้ คงหนีไม่พ้น เมืองหลวงชินวัตร อย่างจ.เชียงใหม่ ที่เรียกได้ว่า ใช้ทุกองคาพยพ ทุกสรรพกำลัง ในที่สุดก็ล้มแชมป์เก่า เข้าวินมาได้
นอกจากตัวแทนพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองที่ถูกจับตามองมากที่สุด คงพนีไม่พ้น “คณะก้าวหน้า” ภายใต้การนำของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ส่งผู้สมัครถึง 42 จังหวัดทั่วประเทศ มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่างหนัก แม้ไปที่ไหนจะมีกลุ่มค่อยตามไล่ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค
เมื่อผลการเมืองตั้งออกมา เรียกได้ว่า น่าผิดหวังสุดๆ เพราะคณะก้าวหน้า ที่ถูกจับตามอง ประกาศสู้บ้านใหญ่ในหลายจังหวัด ลั่น ต้องชนะแบบแลนด์สไลด์ แต่สุดท้าย เรียกว่า แพ้แบบแลนด์สไลด์ แพ้ทุกจังหวัด ราบเป็นหน้ากอง จนธนาธร ต้องแถลงขอโทษ บรรดาแฟนคลับ ที่แพ้เลือกตั้ง แต่ยืนยันว่า กระแสไม่ได้ตกและคะแนนไม่ได้ตก เพราะหากนำคะแนนมาคิดกับเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา คะแนนไม่ได้ตก หรือหายไปไหน
ส่วนแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ แม้จะไม่ได้ส่งผู้สมัครในนามพรรค แต่ในหลายพื้นที่ ต่างรู้กันดีว่า ผู้สมัครคนไหน ได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา เรียกได้ว่า เข้าวินในหลายจังหวัด จนหัวหน้าพรรคอย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะนอกจากจะชนะในหลายจังหวัดแล้ว คู่แข่งสำคัญอย่างคณะก้าวหน้าก็แพ้ราบ ไม่เสียแรงที่กุมอำนาจมากว่า 7 ปีและถือว่าวางยุทธศาสตร์ ได้อย่างถูกต้อง ที่เลือกไม่ส่งในนามพรรรค เพราะจะสามารถเปิดโอกาสให้ บรรดารัฐมนตรี สามารถลงพื้นที่ไปดูงาน ตรวจราชการในจังหวัดต่างๆได้เต็มที่ และหากลงในนามพรรคคะแนนอาจจะหาย เพราะมีประชาชนส่วนหนึ่งที่ไม่ชอบพลังประชารัฐ
แม้การเลือกตั้งท้องถิ่นจะจบไปแล้ว มีว่าที่นายกบอจ.และส.อบจ.ครบทั้ง 76 จังหวัดแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องรอ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และในหลายพื้นที่ดุเดือด คงต้องมีการเรื่องร้องเรียน เรื่องการทุจริต อย่างแน่นอน
สุดท้ายแล้ว คนที่ถูกจับตามองมากที่สุด คงหนีไม่พ้น กกต.อย่างแน่นอน เพราะการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา การทำหน้าที่ของกกต.ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และการทำหน้าที่ของกกต.ที่ผ่านมา ได้มีผล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาแล้ว !!
แม้การเลือกตั้งท้องถิ่นจะจบไปแล้ว มีว่าที่นายกบอจ.และส.อบจ.ครบทั้ง 76 จังหวัดแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องรอ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และในหลายพื้นที่ดุเดือด คงต้องมีการเรื่องร้องเรียน เรื่องการทุจริต อย่างแน่นอน
สุดท้ายแล้ว คนที่ถูกจับตามองมากที่สุด คงหนีไม่พ้น กกต.อย่างแน่นอน เพราะการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา การทำหน้าที่ของกกต.ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และการทำหน้าที่ของกกต.ที่ผ่านมา ได้มีผล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาแล้ว !!
ที่มา: โดย PPTV Online
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
Powered by
MakeWebEasy.com